วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2550

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550

Pruta Boy Toy

>>

"ใช้ศิลปะทำลายความเหงา" คำจี๊ดๆจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง(555) เค้ามักจะสัมผัสได้ถึงความหมายที่ผมกำลังจะสื่อออกมาในงานเสมอ ทุกครั้งที่ผมนั่งลงบนโต๊ะหรือแม้มีเวลาว่างอันน้อยนิด ผมมักจะหยิบปากกาออกมาวาดรูปเสมอ ซึ่งก็เป็นอาการที่ผมก็เห็นคนอื่นก็ทำกัน(บ้าง) แต่ผมไม่รู้ว่าเวลาที่คนอื่นวาดเค้าวาดมันเพราะเหตุใด แต่สำหรับผมผมลองมานั่งสังเกตตัวเองทุกครั้งที่ผมวาดมันคือการที่ผมได้ระบายสิ่งที่ผมคิด อาจจะเหมือนการตะโกนเวลาที่เราอึดอัด แต่สำหรับผมคือการตะโกนออกมาด้วยลายเส้นปากกาวาดลงบนกระดาษ ทุกครั้งที่ผมวาดผมมีแรงบันดาลใจเสมอ แต่แรงบันดาลใจนั้นเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะบอกได้ ที่มานั่งเขียนนั่งพูดอยู่นี้ก็ไม่รู้จะมีไครได้เห็นได้อ่านรึเปล่าแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผมกำลังใช้มันทำลายความเหงาอยู่(จริงๆ)^^


วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2550

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2550

The Pruta Boy

>>
ความเป็นมาของ Pruta Boy
เมื่อตอนผมเรียนอยู่สักอืม...ปี2(น้าจะจำไม่ผิด) ในวิชาภาพประกอบซึ่งน่าจะเป็นวิชาที่ผมค้อนข้างชอบเป็นพิเศษ ได้ให้โจทย์ในการทำงาน1ชิ้นคือให้เราสร้างคาแรกเตอร์ขึ้นมาโดยให้แต่งเรื่องและความเป็นมาของคาแรกเตอร์ที่เราจะวาดนั้นขึ้นมาเอง ซึ่งคาแรกเตอร์นั้นต้องมีทั้ง2อารมณ์ คือด้านดีและด้านไม่ดีและนั้นก็คือที่มาของ Pruta Boy
>>
Pruta Boy ก็เป็นเด็กธรรมดาที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ แม่ของเค้านั้นเป็นนักบินอวกาศขององค์การนาซาซึ้งครั้งหนึ่งแม่ของเค้าได้ขึ้นไปบนดาวพลูโตและได้พบกับมนุษย์ต่างดาวบนนั้นมนุษย์ต่างดาวได้ช่วยชีวิตแม่ของเค้าไว้และทั้ง2ก็รักกันและก็...กัน ซึ่งมนุษย์ต่างดาวก็คือพ่อของ พลูต้านั้นเอง ชื่อพลูต้าจึงมาจากการผสมระหว่างพ่อที่อาศัยอยู่บนดาวพลูโต กับแม่ที่ทำงานองค์การนาซา จึงได้เป็น "พลูต้า"
พลูต้าเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมประกอบนักเค้ามีนิ้วมือเพียงสามนิ้วเหมือนพ่อที่เป็นมนุษย์ต่างดาว นั้นคือปมด้อยในชีวิตของเค้า เค้ามักจะถูกทุกคนล้อว่าเค้าเป็นตัวประหลาดและเมื่อทุกครั้งที่เค้าโกรธ เค้าจะสั่งน้ำมูกสีเขียวออกมาใส่ทุกคนที่ทำให้เค้าโกรธและเค้าก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มีสิ่งเดียวที่ทำให้เค้าสบายใจและไม่คิดอะไรคือ"ถั่ว" เค้าจะต้องมีถั่วเสมอเพราะเมื่อเค้ากินถั่วจะทำให้เค้าสบายใจเมื่อมีคนมาล้อเค้าเค้าก็จะไม่รู้สึกโกรธนั้นก็จะไม่ทำให้เค้าสั่งน้ำมูกออกมาซึ่งนั้นก็เป็นการกระทำที่ตัวเค้าไม่ชอบเอาซะเลย
>>
( นี่คือความเป็นมาของพลูต้า ไม่รู้ว่าในตอนนั้นคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ไง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กๆที่มาเพ้อเจ้ออะไรก็ไม่รู้ แต่พอมาถึงตอนนี้ผมนั่งมองดูและกลับมาคิดอีกที ในความคิดผมผมว่าคนทุกล้วนแล้วแต่มีปมด้อยมีข้อบกพร่องหรือข้อเสียในตัวเองกันทุกคน แล้วแต่ว่าทุกคนจะจัดการกับมันยังไงบางคนอาจจะปกปิดปมด้อยหรือข้อบกพร่องของตัวเองโดยการแสดงสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อทำให้เห็นว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ นั้นก็คือการแก้ปัญหาหรือจัดการกับข้อเสียของตนเองซึ่งการแก้ปัญหานั้นควรจะต้องเป็นวิธีที่ไม่ทำให้ตัวองแย่ลงกว่าที่เป็น แต่จะเป็นวิธีอะไรนั้น ก็คงขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนไปนั้นเอง)



































...